ผลการสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี พบว่า ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองยังเป็นประเด็นสำคัญที่ทรัมป์ต้องจัดการ

รอยเตอร์สรายงานว่าผลการสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกัน ของรอยเตอร์สกับอิปซอส เกี่ยวกับสิ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์ ควรจะทำในช่วง 100 วันแรก หลังจากที่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการวันที่ 20 มกราคมปีหน้า พบว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ตอบว่า ทรัมป์ควรให้ความสำคัญกับปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองเป็นอันดับแรก ส่วนอีก 14 เปอร์เซ็นต์ มองว่าทรัมป์ควรมุ่งเน้นเรื่องความไม่เท่าเทียมกันของรายได้, 12 เปอร์เซ็นต์ให้ความสำคัญเรื่องเงินภาษี และที่เหลือเป็นเรื่องสุขภาพ อาชญากรรม งาน หรือสิ่งแวดล้อม

โดยในส่วนของประเด็นผู้อพยพเข้าเมืองนั้น พบว่า 82 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบคำถามเชื่อว่าทรัมป์จะสั่งขับผู้อพยพเข้าเมืองที่อยู่อย่างผิดกฎหมายครั้งใหญ่ เนื่องจากในช่วงหาเสียงเพื่อชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวนั้น ทรัมป์ประกาศว่าจะกวาดล้างกลุ่มผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมทั้งให้คำมั่นจะเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองมากเป็นประวัติการณ์

ซึ่ง เจดี แวนซ์ คู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของทรัมป์ ประมาณการณ์ว่าน่าจะมีการเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองสูงถึงปีละ 1 ล้านคน  ด้านกลุ่มผู้สนับสนุนผู้อพยพเข้าเมืองเตือนว่า การสั่งขับผู้อพยพเข้าเมืองของทรัมป์ จะมีค่าใช้จ่ายสูง สร้างความแตกแยก และไร้มนุษยธรรมด้วยอย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ทรัมป์เองก็ให้สัมภาษณ์สื่อ NBC news ว่า เขาจะทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ช่วงหาเสียง โดยเฉพาะเรื่องการเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองครั้งใหญ่โดยไม่สนใจเรื่องของค่าใช้จ่าย